ระวัง! คุณอาจกำลังจ่ายเงินซื้อ "ข้าวโพด" ในราคา "เนื้อพรีเมียม" โดยไม่รู้ตัว
แบรนด์มักใช้เทคนิคแยกพืชชนิดเดียวออกเป็นหลายชื่อ เพื่อให้เนื้อสัตว์ดูมีสัดส่วนเยอะที่สุดในลำดับแรกของฉลาก
แทนที่จะเขียนว่าข้าวโพด 30% เขาแยกเป็น แป้งข้าวโพด กากข้าวโพด และรำข้าวโพด อย่างละ 10% เพื่อเลี่ยงการเป็นอันดับหนึ่ง
เนื้อสดมีน้ำถึง 75% เมื่อผ่านความร้อนจนแห้ง ปริมาณจะหายไปจนอาจเหลือน้อยกว่าธัญพืชรวมกันเสียอีก
ถ้าคุณเจอ ข้าว, แป้งข้าว, รำข้าว ปรากฏอยู่ใกล้ๆ กัน ให้รวมเป็นก้อนเดียว แล้วคุณจะเห็นสัดส่วนที่แท้จริง
"ไขมันสัตว์" หรือ "ธัญพืช" แบบกว้างๆ คือสัญญาณอันตราย เพราะผู้ผลิตอาจเปลี่ยนวัตถุดิบไปตามราคาตลาด
"ผลพลอยได้จากสัตว์ปีก" อาจรวมถึงจะงอยปากและขน ซึ่งให้โปรตีนคุณภาพต่ำกว่าเนื้อเกรดมนุษย์มาก
ถ้าขนหยาบ ถ่ายเหลว หรือกลิ่นตัวแรง นี่อาจเป็นผลจากคาร์โบไฮเดรตและสารเติมเต็มที่มากเกินไป
มองหาชื่อระบุเฉพาะเจาะจง เช่น "Chicken Meal" หรือ "Deboned Salmon" แทนคำกว้างๆ เพื่อความมั่นใจ
อย่าเปลี่ยนทันที! ใช้เวลา 7-10 วัน ค่อยๆ ผสมของใหม่เข้าไป เพื่อป้องกันอาการท้องเสียในสัตว์เลี้ยง
ราคาไม่ใช่ตัวตัดสิน แต่ "ความโปร่งใสของฉลาก" ต่างหากคือสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญมากที่สุด
แต่มันคือการมองทะลุกลโกงการตลาด เพื่อโภชนาการที่แท้จริงและอายุที่ยืนยาวของเพื่อนสี่ขาที่คุณรัก
อ่านวิธีจับไต๋ผู้ผลิต และเทคนิคเลือกอาหารเกรดพรีเมียมของจริงเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า