ความเครียดสะสมจากการหาหมออาจทำให้น้องก้าวร้าวและป่วยง่ายขึ้น ถึงเวลาเลือกคลินิกแบบ Low Stress
คลินิกที่ดีต้องแยกโซนสุนัขและแมวออกจากกันชัดเจน หรือมีฉากกั้น เพื่อไม่ให้การจ้องตาเปิดสวิตช์ความกลัว (Fight or Flight) โดยไม่จำเป็น
ลองดมกลิ่นดูสิ คลินิกแบบ Low Stress มักใช้ฟีโรโมนสังเคราะห์ (Feliway/Adaptil) และเปิดดนตรีบำบัดเบาๆ เพื่อกลบเสียงเห่าที่น่ากังวล
ถ้าบนโต๊ะตรวจมีผ้านุ่มๆ หรือแผ่นยางกันลื่นเตรียมไว้ นั่นคือสัญญาณว่าคุณหมอใส่ใจความสบายพื้นฐานของน้องจริงๆ
คุณหมอควรปล่อยให้น้องได้ดมสำรวจห้องหรือเครื่องมือก่อน อย่ารีบอุ้มขึ้นโต๊ะทันที การสร้างความไว้ใจต้องใช้เวลา
เลิกใช้วิธีจับบีบหนังคอ (Scruffing) แบบเดิมๆ คลินิกสมัยใหม่จะใช้การห่อผ้าแบบ Burrito หรือตรวจบนพื้นเพื่อลดความกังวล
คุณหมอถามไหมว่าน้องชอบกินอะไร? การใช้ขนมแมวเลียหรือตับบดระหว่างฉีดยา จะช่วยเปลี่ยนความเจ็บให้กลายเป็นความฟิน
ไม่ต้องป่วยก็มาได้! ลองพาน้องมาเดินเล่น ทานขนมที่คลินิกเฉยๆ เพื่อล้างภาพจำที่น่ากลัว แล้วครั้งต่อไปจะง่ายขึ้นเยอะ
1. จับบังคับรุนแรง 2. ดุน้องเมื่อน้องกลัว 3. รีบทำหัตถการโดยไม่สนสัญญาณเตือนของสัตว์ ถ้าเจอแบบนี้... เปลี่ยนคลินิกเถอะ!
การรักษาสมัยใหม่เน้นความโปร่งใส ถ้าคุณหมอไม่ยอมให้คุณอยู่ด้วยโดยไม่มีเหตุผลจำเป็น นั่นอาจเป็นจุดที่ต้องเอะใจ
สัตว์ที่ไม่เครียดจะมีภูมิคุ้มกันดีกว่าและฟื้นตัวไวขึ้น การจ่ายเพิ่มอีกนิดเพื่อแลกกับความสบายใจ คือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเขา
การรักษาสุขภาพกายต้องมาพร้อมสุขภาพใจที่แข็งแรง การเลือกคลินิก Low Stress คือการบอกรักน้องในแบบที่เขาเข้าใจจริงๆ
ดูเทคนิคเลือกคลินิกที่ใส่ใจหัวใจน้องๆ และวิธีเตรียมตัวให้น้องหายกลัวหมออย่างถาวรในบทความฉบับเต็ม